สิ่งที่ควรทำเป็นประจำทุกวันสำหรับสระว่ายน้ำ
1. ทดสอบค่า Br,Cl,pH ทุกเช้า 1 ครั้ง และก่อนปิดสระ 1 ครั้ง พร้อมปรับแต่งให้อยู่ในสภาพสมดุลพร้อมใช้งานทันที
2. เช็คระดับน้ำใน SURGE TANK ให้มีปริมาณน้ำที่เพียงพอ( 1/2 ของTANK )
3. เช็คความดันที่เกจวัดความดันของเครื่องกรองว่าถึงเวลาล้างหรือยัง พร้อมเปิดวาล์วไล่อากาศที่เครื่องกรอง
4. ดูตะกอนพื้นสระพร้อมทำความสะอาดบริเวณสระน้ำและอุปกรณ์ต่างๆ
5. เดินเครื่องระบบกรองตามเวลาพร้อมตรวจตำแหน่งเปิดปิดของวาล์วต่างๆให้อยู่สภาพปกติและตรวจเช็คสารเคมีให้มีสำรอง
สมดุลทางเคมีของน้ำในสระได้โดยทำการวัดค่าต่อไปนี้
1. ระดับของค่าคลอรีนอิสระ (FAC) ไม่ควรต่ำกว่า 1.0 ppm
2. ระดับของค่าคลอรีนทั้งหมด (Total Chlorine) เพื่อไม่ให้ค่าคลอรีนรวมที่อยู่ในน้ำต่ำกว่า 0.2 ppm
3. ค่า pH ควรอยู่ระหว่าง 7.2 – 7.6 ซึ่งคลอรีนในน้ำจะทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. วัดค่าอัลคาลินิตี้รวม (Total Alkalinity) เพื่อให้แน่ใจว่าค่า pH อยู่คงที่
5. วัดความกระด้างของน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันการกัดกร่อนของพื้นผิวสระว่ายน้ำ
มาตรฐานทางเคมีของสระว่ายน้ำ
แนวทางที่กำหนดเป็นมาตรฐานทางเคมีของสระว่ายน้ำ โดยสถาบันสระว่ายน้ำแห่งชาติ เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขของแต่ละแห่ง ชนิดของสารเคมีที่ใช้ในแต่ละสระว่ายน้ำที่มี ความแตกต่างกัน และความแตกต่างกันในแต่ละวัน การจดบันทึกข้อมูลการใช้สารเคมี และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ก็จะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าถึงคุณสมบัติของน้ำในสระได้ และทำให้การแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตรงถูกจุด
ค่ามาตรฐานที่เสนอ | ค่าที่ยอมรับ |
คลอรีนอิสระ (ppm) | 1.0 – 3.0 PPM |
คลอรีนรวมกับสารอื่น (ppm) | ไม่ควรเกิน 0.5-1 PPM |
pH | 7.2 – 7.6 PPM |
Total Alkalinity (ppm) (เมื่อใช้คลอรีนเหลว, แคเซียมไฮโปคลอไรท์ และลิเทียม ไอโปคลอไรท์) | 80 – 100 PPM |
Total Alkalinity (ppm) (เมื่อใช้ก๊าซคลอรีน, ไดคลอโร, ไตรคลอโร, และสารประกอบโบรมีน) | 100 – 120 PPM |
Total Dissolved Solids (ppm) (ของแข็งที่ละลายในน้ำทั้งหมด) | 1,000 – 2,000 PPM |
Calcium Hardness (ppm) (ความกระด้าง) | 200 – 400 PPM |
Cyanuric Acid (ppm) (กรดไซยานูริค) | 30 – 50 PPM |
12,599 total views, 6 views today